สารจากประธานกรรมการ
สำหรับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในประเทศไทยปีการผลิต 2564/2565 ที่ผ่านมาปริมาณผลผลิตอ้อยเข้าหีบของประเทศไทย เพิ่มขึ้นแตะระดับ 92.07 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 38.12 (ปริมาณอ้อยเข้าหีบในปีการผลิต 2563/2564 อยู่ที่ 66.67 ล้านตัน) ซึ่ง ส่งผลให้โรงงานน้ำตาลสามารถกลับมาใช้อัตรากำลังการผลิตได้มากขึ้น อย่างเหมาะสม ซึ่งสำหรับบริษัทเอง ในปีการผลิต 2564/2565
นอกจากโรงน้ำตาลครบุรีที่มีอ้อยเข้าหีบ 2.72 ล้านตันแล้ว บริษัท ยังได้เริ่มดำเนินการหีบอ้อยจากโรงน้ำตาลสีคิ้วเป็นปีแรก โดยมีปริมาณ อ้อยเข้าหีบทั้งสิ้น 0.96 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณอ้อยที่ได้ก็ยังคง ไม่เต็มกำลังการผลิตของบริษัท ทั้งนี้บริษัทได้มีการปรับตัวและรับมือ จากผลกระทบดังกล่าว โดยเน้นบริหารพื้นที่เพาะปลูกอ้อยเพื่อเพิ่ม ปริมาณและคุณภาพอ้อยให้สูงขึ้น รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการหีบสกัด ให้ได้ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (Yield) ลดต้นทุนการผลิต และลดค่า ใช้จ่ายในทุกๆ กิจกรรม โดยบริษัทตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่า บริษัทยังคง ต้องพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มคุณภาพน้ำตาล ให้ได้มาตราฐานสำหรับอุตสาหกรรมรายใหญ่ๆ ของโลก และนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิต มาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มสูงสุดจากธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใช้กากอ้อยเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลักดันการ เติบโตของบริษัท
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายในปีการผลิต 2565/2566 นี้ บริษัทและกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายประเมินว่าอยู่ในทิศทางที่ดีทั้งในด้านปริมาณอ้อยและผลผลิตน้ำตาล จาก ปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงแนวโน้มราคาน้ำตาลตลาดโลกที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอยู่ โดยคาดการณ์ว่า ปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งประเทศจะปรับตัวสูงขึ้นประมาณร้อยละ 10 โดยปรับตัวเพิ่มจาก 92.07 ล้านตัน ในปีการผลิต 2564/2565 เป็นประมาณ 100-102 ล้านตัน
ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าหลัก ภายใต้ตราสินค้า KBS ได้แก่ น้ำตาลทราย ขาวบริสุทธิ์พิเศษ น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์น้ำตาลทรายขาวธรรมดา และ น้ำตาลทรายธรรมชาติ ซึ่งบริษัทใช้กลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ เพื่อสร้าง ตราสินค้า “KBS” ให้เป็นที่รู้จักของตลาด โดยลูกค้าของบริษัท ได้แก่ลูกค้า กลุ่มอุตสาหกรรม ลูกค้ากลุ่มโมเดิร์นเทรด ผู้กระจายสินค้า และช่องทาง ธุรกิจโดยตรง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง Brand Loyalty (ความภักดีในตรา สินค้า) ที่ยั่งยืนในอนาคต
บริษัทมุ่งมั่นและตั้งใจดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทควบคู่ไปกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีมีความ รับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และเกิดการส่งเสริม คุณภาพสังคมอย่างมีคุณภาพ ผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีการจัดตั้ง คณะกรรมการทำงานอำนวยการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อสนับสนุนให้ พนักงาน และชุมชนบริเวณรอบโรงงานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผ่านโครงการสาธารณประโยชน์ต่างๆ ของบริษัท
สุดท้ายนี้ในฐานะตัวแทนของคณะกรรมการบริษัท ใคร่ขอขอบพระคุณท่านผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร พนักงาน ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมถึงสถาบันการเงินที่ให้การ สนับสนุนบริษัทมาโดยตลอด กลุ่มบริษัท KBS จะมุ่งมั่นทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม โปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้กลุ่มบริษัท KBS เติบโตอย่างยั่งยืน และพร้อมรับการแข่งขันในอุตสาหกรรมและพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นองค์กรชั้นนำในธุรกิจอ้อย น้ำตาล และชีวพลังงานใน อนาคตต่อไป